Before & After สวยของจริง ไม่ต้องพึ่งมีดหมอ แค่มีวินัย!

– คุณจิราภรณ์ คงทน , บัญชีบริษัท –
ใช่ว่าสวยขึ้นเพราะต้องศัลยกรรมเพียงอย่างเดียว หากเราตั้งใจลดน้ำหนัก ปรับพฤติกรรมตัวเองก็สวยขึ้นได้ดูอย่างคุณลูกแก้วสิ แต่ก่อนเป็นแค่สาวธรรมดาไม่ดูแลตัวเอง กินทั้งวันไม่หยุดจนอ้วนและยังเพิ่งยาลดน้ำหนัก แต่สุดท้ายเธอก็คิดได้ว่าการลดด้วยยาไม่ใช่ทางออก ต้องเพิ่งตัวเองถึงจะสำเร็จแล้วฝันก็กลายเป็นจริง เธอสวยและฟิตยังกับคนละคน
– เหตุผลที่อยากลด –
ไม่ใช่คนอ้วนมาตั้งแต่เด็กแต่พอเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น มีเพื่อน มีสังสรรค์ ออกทริปกินกันตลอดเวลา ทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนพุ่งมาถึง 70 กก. เสื้อผ้าที่ใส่มีแต่ XL เท่านั้น อาหารที่กินแต่ละวันมีมากกว่า 3 มื้อ เรียกว่ากินตั้งแต่ 6 โมงเช้า ยันเที่ยงคืน จนถึงจุดๆ หนึ่งเริ่มรับไม่ได้กับหุ่นตัวเอง จึงลองกินยาลดความอ้วนผลคือมีอาการใจสั่น หัวใจจะวายจนต้องแอทมิทเข้าโรงพยาบาล เมื่อผ่านจุดๆ นั้นมาได้ และเรายังไม่ตาย จึงเกิดแรงฮึดบอกกับตัวเองเลยว่า “เราจะต้องลดน้ำหนักด้วยตัวเองโดยไม่พึ่งยาให้ได้”
– ออกกำลังกาย & ควบคุมอาหาร –
สิ่งแรกที่ทำคือเปลี่ยนอาหารที่มีผลทำให้เราอ้วนออกไปจากครัว จัดตู้เย็น จัดครัวใหม่หมด เพราะถือคติที่ว่า “เรากินอะไรเราก็จะได้อย่างนั้น” เพราะฉะนั้นในตู้เย็นและในครัวจะมีแต่ผัก ผลไม้ ธัญพืช กลายเป็นอาหารหลักแทน
ช่วงแรกลูกแก้วคุมอาหารอย่างเดียวโดยใช้เวลา 5-6 เดือน จากน้ำหนัก 70 กก. ลดลงมาเหลือ 54 กก. แต่กล้ามเนื้อไม่มี ผิวหนังไม่กระชับ ไม่เฟิร์มเลย ตอนนี้เองที่ทำให้เริ่มคิดออกกำลังกายควบคู่ไปด้วย โดยเลือกเล่นโยคะตอนเช้าวันละ 30 นาที เพื่อให้เราไม่รู้สึกกอ่อนล้าในการทำงาน หลังจากเล่นโยคะพร้อมกับควบคุมอาหาร ทำให้ร่างกายเราเฟิร์มกระชับมีกล้ามเนื้อสวยงามขึ้น และน้ำหนักลงมาที่ 47 กก. จนถึงปัจจุบันน้ำหนักก็ไม่ขึ้นอีกเลยเป็นเวลาเกือบ 10 ปีแล้ว
– ผลที่ได้หลังลดน้ำหนัก –
รูปร่างดีขึ้นจนเปลี่ยนไปเหมือนคนละคน รวมถึงหน้าตาที่เคยอ้วนบวม ดำคล้ำ หน้าแก่ ก็ดูเด็กลง ผิวพรรณดีขึ้นจนมีคนทักกันเยอะมากว่าศัลยกรรมมาหรือเปล่า จริงๆ แล้วแค่เราปรับปรุงตัวเอง มีวินัยใส่ใจในทุกสิ่งที่เรากินและทำ ก็ทำให้เราดูดีขึ้นได้โดยไม่ต้องพึ่งหมอ ความมั่นใจที่ไม่เคยมีก็กลับคืนมา ลูกแก้วจะบอกทุกคนที่จะลดน้ำหนักเสมอว่า “ถ้าเราเริ่มก่อนก็เห็นผลก่อน และสิ่งที่ได้มามันคุ้มมากกับที่เราทุ่มเท”
– เคล็ดลับที่อยากบอก –
จะไม่เน้นการออกกำลังกายที่หักโหมเกินไป ไม่ตั้งเป้าว่าเวลาเท่านี้ต้องลดได้เท่านี้ เพราะมันเป็นการกดดันตัวเอง เมื่อทำได้ไม่ตรงตามเป้า เราจะท้อ เพราะฉะนั้นเราออกในแบบที่ไม่เกินกำลังเรา และรู้สึกสนุกกับสิ่งที่เราทำ จำไว้ว่าทำให้มันเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของเรา ให้เหมือนกับการอาบน้ำแปรงฟันที่เราทำมันทุกวันโดยอัตโนมัติ
“มีวินัยใส่ใจในทุกสิ่งที่เรากินและทำ”